สินเชื่อทะเบียนรถ กู้เงินด่วนทันใจ | สมหวัง เงินสั่งได้ https://www.somwang.co.th ต้องการเงินด่วน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถช่วยได้ เงินด่วนสำหรับคนมีรถยนต์ รถเก๋ง รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ รถบรรทุก ได้เงินไว ไม่โอนเล่ม ดอกเบี้ยต่ำ กู้ง่ายไว้ใจเรา Fri, 15 Aug 2025 07:33:10 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.8.2 https://www.somwang.co.th/wp-content/uploads/cropped-android-icon-192x192-1-32x32.png สินเชื่อทะเบียนรถ กู้เงินด่วนทันใจ | สมหวัง เงินสั่งได้ https://www.somwang.co.th 32 32 ขับรถตอนฝนตกหนัก ขับยังไงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ? https://www.somwang.co.th/article/careful-driving-night/ Mon, 04 Aug 2025 07:07:35 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4472

การขับรถตอนกลางคืน แม้จะดูเหมือนถนนโล่งสบาย แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายที่มากกว่าตอนกลางวันนะครับ ทัศนวิสัยที่จำกัดและความเหนื่อยล้าอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย วันนี้น้องสมหวังจึงรวบรวม 7 สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องขับรถตอนกลางคืน พร้อมวิธีรับมือมาฝากกันครับ

ทำไมขับรถตอนกลางคืนถึงเสี่ยงกว่าตอนกลางวัน

การขับรถตอนกลางคืนมีความเสี่ยงสูงกว่าเนื่องจากปัจจัยหลายอย่างครับพี่ ๆ อย่างแรกคือ ทัศนวิสัยที่ลดลงอย่างมาก ทำให้มองเห็นสิ่งกีดขวางหรืออันตรายได้ช้าลงครับ ร่างกายของเราเองก็อาจจะเหนื่อยล้าหรือมีสมาธิลดลงตามธรรมชาติของนาฬิกาชีวภาพ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเจอผู้ขับขี่ที่อาจจะดื่มแล้วขับ หรือสัตว์ที่ออกมาหากินตอนกลางคืน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุครับ

7 อันตรายที่พบบ่อย ขณะขับรถตอนกลางคืน และวิธีรับมือ

เพื่อให้การขับรถตอนกลางคืนปลอดภัยยิ่งขึ้น การทำความเข้าใจถึงอันตรายที่อาจพบเจอและรู้วิธีรับมืออย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ น้องสมหวังได้รวบรวม 7 อันตรายที่พบบ่อย พร้อมแนวทางการป้องกันและแก้ไขมาฝากพี่ ๆ ทุกท่านครับ

1. ทัศนวิสัยจำกัด และเทคนิคปรับให้มองเห็นชัดขึ้น

ปัญหาหลักของการขับรถตอนกลางคืนคือ ทัศนวิสัยที่มองเห็นได้ในระยะจำกัดครับ พี่ ๆ ควรลดความเร็วลงกว่าปกติเพื่อให้มีเวลาตอบสนองมากขึ้น ใช้ไฟสูงเมื่อถนนมืดและไม่มีรถสวนมา แต่ต้องรีบเปลี่ยนเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อมีรถคันอื่นครับ หมั่นทำความสะอาดกระจกหน้าและไฟหน้ารถให้ใสอยู่เสมอ จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

2. วิธีป้องกันอาการง่วงนอน

อาการง่วงนอนเป็นศัตรูตัวฉกาจของการขับรถตอนกลางคืน ดังนั้น ก่อนเดินทางควรพักผ่อนให้เพียงพอ หากรู้สึกง่วงระหว่างทาง ให้รีบหาที่ปลอดภัยจอดพักทันทีครับ อาจจะงีบหลับสัก 15-20 นาที หรือลงมายืดเส้นยืดสาย การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลังอาจช่วยได้ชั่วคราว แต่การพักผ่อนคือทางแก้ที่ดีที่สุดครับ อย่าฝืนขับต่อเด็ดขาดนะครับ ง่วงจอดพักนะครับ

3. คนขับเมาแล้วขับ สัญญาณอันตรายและการหลีกเลี่ยง

การขับรถตอนกลางคืนโดยเฉพาะในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ มีโอกาสสูงที่จะเจอผู้ที่เมาแล้วขับครับ พี่ ๆ ต้องสังเกตรถที่ขับขี่ส่ายไปมา ขับเร็วหรือช้าผิดปกติ หรือเปิดไฟไม่ถูกต้อง หากพบเจอให้พยายามรักษาระยะห่าง อย่าขับตามไปใกล้ ๆ หรือพยายามแซงอย่างกระชั้นชิดครับ หากเป็นไปได้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนท่านอื่นด้วยครับ

4. สัตว์เดินข้ามถนน พื้นที่เสี่ยงและเบรคอย่างไรให้ปลอดภัย

ในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือบริเวณที่ใกล้ป่าเขา การขับรถตอนกลางคืนอาจพบสัตว์ป่าหรือสัตว์เลี้ยงเดินข้ามถนนได้ครับพี่ ๆ ให้สังเกตป้ายเตือนและลดความเร็วในพื้นที่เสี่ยง หากเห็นสัตว์อยู่ข้างทางหรือกำลังจะข้ามถนน ให้ชะลอความเร็วและเปิดไฟสูงเตือน (ถ้าไม่มีรถสวน) หากจำเป็นต้องเบรกให้ค่อย ๆ เบรกอย่างนุ่มนวล อย่าหักหลบกะทันหันเพราะอาจทำให้รถเสียหลักได้

5. วิธีรับมือกับแสงไฟหน้ารถสวนตาให้ปลอดภัย

แสงไฟหน้ารถที่สวนมาเป็นอีกปัญหาของการขับรถตอนกลางคืน หากเจอไฟสูงแยงตา อย่ามองจ้องไปที่แสงไฟนั้นโดยตรงครับ ให้ลดความเร็วลงและเบนสายตาไปมองเส้นแบ่งเลนด้านซ้ายหรือขอบถนนด้านซ้ายแทน เพื่อใช้เป็นแนวในการประคองรถให้อยู่ในเลนครับ เมื่อรถคันนั้นขับผ่านไปแล้ว สายตาเราจะปรับเข้ากับความมืดได้เร็วขึ้นครับ

6. วางแผนขับรถในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย และใช้เทคโนโลยีช่วย

หากต้องขับรถตอนกลางคืนในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ควรศึกษาเส้นทางล่วงหน้าในตอนกลางวัน หรือใช้แอปพลิเคชันนำทาง (GPS) ช่วยครับ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยแจ้งเตือนทางโค้ง ทางแยก หรือจุดอันตรายต่าง ๆ ได้ ทำให้เราเตรียมตัวได้ทันครับ การวางแผนที่ดีจะช่วยลดความสับสนและความกังวลในการขับขี่ ทำให้การเดินทางปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้นครับ

7. เพิ่มความระมัดระวังในจุดเสี่ยง จุดอับสายตา

การขับรถตอนกลางคืนต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงหรือจุดอับสายตานะครับ เช่น ทางแยก ทางโค้ง บริเวณที่ไม่มีไฟส่องสว่าง หรือบริเวณที่มีการก่อสร้างถนนครับ ลดความเร็วลง สังเกตป้ายเตือน และพร้อมที่จะหยุดรถเสมอหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น การไม่ประมาทและใช้ความระมัดระวังอยู่เสมอคือสิ่งสำคัญที่สุดครับ

วิธีเตรียมตัวและเตรียมรถให้พร้อม ก่อนขับรถตอนกลางคืน

นอกจากการระมัดระวังอันตรายต่าง ๆ ขณะขับรถตอนกลางคืนแล้ว การเตรียมความพร้อมของทั้งตัวพี่ ๆ เองและรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ เพื่อให้การเดินทางยามค่ำคืนเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด น้องสมหวังมีข้อแนะนำในการเตรียมตัวมาฝากครับ

ตรวจสอบไฟหน้าและไฟท้ายให้พร้อมใช้งาน

ไฟส่องสว่างคืออุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการขับรถตอนกลางคืนครับ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟหน้า (ทั้งไฟต่ำและไฟสูง) ไฟท้าย ไฟเบรก และไฟเลี้ยวทุกดวงทำงานเป็นปกติและมีความสว่างเพียงพอครับ หากพบว่าหลอดใดขาดหรือสว่างน้อย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที การมีระบบไฟที่สมบูรณ์จะช่วยให้เรามองเห็นทางและรถคันอื่นก็มองเห็นเราได้ชัดเจนครับ

ทำความสะอาดกระจกทั้งภายในและภายนอก

กระจกที่สกปรกทั้งด้านในและด้านนอกจะทำให้เกิดแสงสะท้อนและแสงฟุ้งกระจายเมื่อมีไฟมาตกกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาขับรถตอนกลางคืน ทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงกว่าเดิม ก่อนเดินทางควรทำความสะอาดกระจกบังลมหน้า กระจกข้าง และกระจกมองหลังให้ใสสะอาดอยู่เสมอ จะช่วยลดปัญหาแสงสะท้อนรบกวนสายตาและเพิ่มความคมชัดในการมองเห็น

อุปกรณ์ฉุกเฉินที่ควรมีติดรถเสมอ

การเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถไว้เป็นเรื่องจำเป็นนะครับพี่ ๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถตอนกลางคืน เช่น ไฟฉาย (พร้อมถ่านสำรอง) ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง สายพ่วงแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินต่าง ๆ ครับ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น การมีอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้พี่ ๆ สามารถจัดการสถานการณ์เบื้องต้นและขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

การขับรถตอนกลางคืน แม้จะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่หากพี่ ๆ มีการเตรียมตัวที่ดี ทั้งคนและรถยนต์ รวมถึงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษตามคำแนะนำของน้องสมหวัง ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและทำให้การเดินทางในยามค่ำคืนของพี่ ๆ ปลอดภัยยิ่งขึ้นได้ครับ อย่าลืมว่าความไม่ประมาทคือหัวใจสำคัญของการขับขี่ในทุกเส้นทางนะครับ

และหากพี่ ๆ ต้องการเงินทุน หรือเงินสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ที่สมหวัง เงินสั่งได้ เรามีบริการสินเชื่อเงินสดถูกกฎหมายหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีรถ มีเล่มทะเบียน สมัครสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมให้คำปรึกษา สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
เจาะลึก 7 สาเหตุ อะไรทำให้ราคาน้ำมันแพง https://www.somwang.co.th/article/why-oil-expensive/ Mon, 04 Aug 2025 06:58:34 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4464

ปัญหาน้ำมันแพงเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของพวกเราทุกคนโดยตรงเลยนะครับ หลายท่านอาจสงสัยว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้น้องสมหวังจะพาพี่ ๆ มาเจาะลึกถึง 7 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะน้ำมันแพง เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้นครับ

น้ำมันคืออะไร ทำมาจากอะไรบ้าง

ก่อนที่เราจะไปดูสาเหตุที่ทำให้น้ำมันแพง เรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า น้ำมันที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้คืออะไร โดยน้ำมันเชื้อเพลิงส่วนใหญ่ที่เราใช้กับรถยนต์นั้นกลั่นมาจากน้ำมันดิบครับ ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ใต้พื้นโลกนับล้านปี ผ่านกระบวนการกลั่นแยกส่วนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น น้ำมันเบนซิน ดีเซล และอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราครับ

7 ปัจจัยหลักที่ทำให้น้ำมันแพงขึ้น

ราคาน้ำมันที่เราเห็นปรับขึ้นลงนั้นไม่ได้มาจากปัจจัยเดียวครับ แต่มีหลายสาเหตุที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม วันนี้เรามาดู 7 ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะน้ำมันแพง เพื่อให้พี่ ๆ ได้เข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

1. สงครามและความขัดแย้งในภูมิภาคผู้ผลิตน้ำมัน

สถานการณ์ความไม่สงบหรือสงครามในประเทศที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลก เมื่อแหล่งผลิตได้รับความเสียหายหรือการขนส่งหยุดชะงัก อุปทานน้ำมันจะลดลงทันที ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วครับ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราต้องเผชิญกับภาวะน้ำมันแพงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยครับ

2. การตัดสินใจของกลุ่ม OPEC+ ในการควบคุมกำลังการผลิต

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตร หรือที่เรียกว่า OPEC+ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดโลกครับ หากกลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเพื่อรักษาระดับราคาหรือด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตาม ปริมาณน้ำมันในตลาดก็จะลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำมันแพงขึ้นทั่วโลก รวมถึงบ้านเราด้วยครับ

3. อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19

หลังจากการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทางเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมัน (อุปสงค์) เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วครับ ในขณะที่กำลังการผลิตอาจยังไม่สามารถตอบสนองได้ทันที เมื่อความต้องการมีมากกว่าปริมาณสินค้าในตลาด ก็เป็นธรรมดาที่ราคาสินค้านั้น ๆ จะปรับตัวสูงขึ้นครับ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะน้ำมันแพงครับ

4.ค่าเงินบาทอ่อนตัวส่งผลต่อต้นทุนการนำเข้า

ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศเป็นหลักนะครับ ซึ่งการซื้อขายน้ำมันดิบในตลาดโลกนั้นใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ดังนั้น หากค่าเงินบาทของเราอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็จะทำให้ต้นทุนในการนำเข้าน้ำมันดิบสูงขึ้นตามไปด้วย ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ก็ส่งผลต่อราคาขายปลีกในประเทศ ทำให้น้ำมันแพงขึ้น

5. ภาษีและโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทย

โครงสร้างราคาน้ำมันขายปลีกในบ้านเรานั้นมีส่วนประกอบของภาษีหลายประเภทครับพี่ ๆ เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) รวมถึงเงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาครับ สัดส่วนของภาษีเหล่านี้มีผลต่อราคาที่เราจ่ายหน้าปั๊มอย่างมากครับ หากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายภาษีหรือการจัดเก็บเงินเข้ากองทุน ก็อาจทำให้ราคาน้ำมันแพงหรือถูกลงได้ครับ

6. ต้นทุนการขนส่งและการกระจายน้ำมันที่สูงขึ้น

กว่าน้ำมันจะมาถึงปั๊มให้เราเติมได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการขนส่งหลายขั้นตอนนะครับพี่ ๆ ทั้งการขนส่งน้ำมันดิบมายังโรงกลั่น และการกระจายน้ำมันสำเร็จรูปไปยังสถานีบริการทั่วประเทศ หากต้นทุนด้านโลจิสติกส์เหล่านี้ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าขนส่งทางเรือ ค่ารถบรรทุก หรือค่าประกันภัย ก็จะส่งผลให้ต้นทุนรวมของน้ำมันเพิ่มขึ้น และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นได้ครับ

7. ผลกระทบจากภัยธรรมชาติต่อแหล่งผลิตและโรงกลั่น

ภัยธรรมชาติที่รุนแรง เช่น พายุเฮอริเคน น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว สามารถสร้างความเสียหายให้กับแหล่งผลิตน้ำมันดิบหรือโรงกลั่นน้ำมันที่สำคัญของโลกได้ครับพี่ ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น การผลิตและการส่งออกน้ำมันอาจหยุดชะงักหรือลดลงอย่างกะทันหัน ทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกลดน้อยลง และส่งผลให้ราคาดีดตัวสูงขึ้น นำไปสู่ภาวะน้ำมันแพงในที่สุดครับ

5 วิธีประหยัดน้ำมัน ในวันที่ราคาน้ำมันแพงขึ้น

เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำมันแพง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถยนต์และการดูแลรักษารถอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายนะครับพี่ ๆ น้องสมหวังมี 5 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า แต่ยังดีต่อรถยนต์และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้วยครับ มาดูกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง

1. เทคนิคการขับขี่เพื่อประหยัดน้ำมัน

การขับขี่อย่างนุ่มนวลเป็นหัวใจสำคัญของการประหยัดน้ำมันครับพี่ ๆ พยายามออกตัวไม่กระชาก ใช้ความเร็วคงที่เมื่อเดินทางไกล ไม่เบรกหรือเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็นครับ การคาดการณ์สภาพจราจรล่วงหน้าและรักษาระยะห่างที่เหมาะสม จะช่วยลดการเบรกกะทันหัน ซึ่งล้วนแต่เป็นพฤติกรรมที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันครับ การปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ช่วยลดผลกระทบจากภาวะน้ำมันแพงได้ครับ

2. บำรุงรักษารถยนต์เพื่อการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ

รถยนต์ที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจะมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพกว่าครับ จึงควรหมั่นตรวจเช็กและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ เปลี่ยนไส้กรองอากาศเมื่อสกปรก และตรวจเช็กลมยางให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเสมอ ยางที่ลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น การดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดน้ำมันในช่วงที่น้ำมันแพง แต่ยังยืดอายุการใช้งานของรถด้วยครับ

3. วางแผนเส้นทางการเดินทางอย่างรอบคอบ

ก่อนออกเดินทางทุกครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่น้ำมันแพง การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้มากครับ ลองใช้แอปพลิเคชันนำทางเพื่อเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุด หรือมีสภาพการจราจรคล่องตัวที่สุด หลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติดเป็นเวลานาน หรือเส้นทางที่ต้องขับอ้อมโดยไม่จำเป็นครับ การวางแผนที่ดีช่วยลดระยะทางและเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน ทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นครับ

4. พิจารณาใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทน

ในวันที่น้ำมันแพง หากการเดินทางของพี่ ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเสมอไป การพิจารณาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง หรือการเดินทางร่วมกัน (Carpooling) ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายครับ นอกจากจะช่วยลดภาระค่าน้ำมันส่วนตัวแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการจราจรและมลพิษทางอากาศได้อีกทางหนึ่งด้วย

5. เปรียบเทียบราคาน้ำมันจากปั๊มต่าง ๆ ก่อนเติม

ราคาน้ำมันในแต่ละสถานีบริการอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยนะครับพี่ ๆ แม้จะเป็นน้ำมันประเภทเดียวกันก็ตาม ในช่วงที่น้ำมันแพง การสละเวลาสักนิดเพื่อเปรียบเทียบราคาจากปั๊มต่าง ๆ ที่อยู่ในเส้นทางหรือใกล้เคียง ก็อาจช่วยให้พี่ ๆ ประหยัดเงินได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยตรวจสอบราคาน้ำมันแบบเรียลไทม์ ทำให้การเปรียบเทียบสะดวกยิ่งขึ้น

 

หากต้องการเงินทุนหมุนเวียน ใช้จ่ายสำหรับเรื่องจำเป็น มีรถ มีเล่มทะเบียน สมัครสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมให้คำปรึกษา สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
ขับรถตอนฝนตกหนัก ขับยังไงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ? https://www.somwang.co.th/article/how-to-drive-safely-rain/ Mon, 04 Aug 2025 06:51:15 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4456

การขับรถฝนตกหนักเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนะครับ เพราะทัศนวิสัยลดลง สภาพถนนลื่น ทำให้การควบคุมรถยากขึ้นกว่าปกติ แต่วันนี้น้องสมหวังมีเทคนิคดี ๆ ในการขับรถตอนฝนตกหนัก ว่าควรอย่างไรให้ปลอดภัย ลดความเสี่ยง มาฝากพี่ ๆ ทุกท่านแล้วครับ

ขับรถตอนฝนตกหนัก อันตรายอย่างไร

การขับรถฝนตกหนักนั้นมีอันตรายหลายอย่างที่พี่ ๆ ควรระวังครับ อย่างแรกคือ ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะลดลงอย่างมาก ทั้งจากเม็ดฝนที่หนาและละอองน้ำจากรถคันอื่นครับ ต่อมาคือสภาพถนนที่เปียกลื่น ทำให้ระยะเบรกยาวขึ้นและควบคุมรถได้ยาก เสี่ยงต่อการลื่นไถลหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายครับ นอกจากนี้ น้ำที่ขังบนถนนยังอาจทำให้เกิดอาการเหินน้ำได้อีกด้วยครับ

9 เทคนิคขับรถฝนตกหนักให้ปลอดภัย ไม่ลื่นไถล

เมื่อทราบถึงอันตรายของการขับรถฝนตกหนักแล้ว การเตรียมตัวและใช้เทคนิคที่ถูกต้องจะช่วยให้พี่ ๆ ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ น้องสมหวังได้รวบรวม 9 เทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้พี่ ๆ ควบคุมรถได้ดี ไม่ลื่นไถล และถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ

1. ตรวจสอบยางรถยนต์ให้พร้อมก่อนเดินทาง

ก่อนออกเดินทางในช่วงที่คาดว่าจะมีฝนตก หรือต้องขับรถช่วงฝนตกหนัก พี่ ๆ ควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์เป็นอันดับแรกเลยนะครับ ดอกยางควรมีความลึกเพียงพอเพื่อช่วยในการรีดน้ำและยึดเกาะถนนที่เปียกลื่นครับ รวมถึงแรงดันลมยางก็ต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยางที่พร้อมใช้งานจะช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นไถลและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างมากครับ

2. ใช้ความเร็วต่ำกว่าปกติ 10-20 กม./ชม.

เมื่อต้องขับรถฝนตกหนัก การลดความเร็วลงจากปกติเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งครับ ควรใช้ความเร็วต่ำกว่าที่ขับขี่ในสภาพถนนแห้งประมาณ 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือช้ากว่านั้นหากทัศนวิสัยแย่มากครับ การลดความเร็วจะช่วยให้มีเวลาในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้มากขึ้น และยังช่วยลดโอกาสที่รถจะเกิดอาการเหินน้ำหรือลื่นไถลเสียการควบคุมครับ

3. เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้าเป็น 2 เท่า

สภาพถนนที่เปียกลื่นจากการขับรถฝนตกหนัก ทำให้ระยะเบรกของรถยนต์ยาวขึ้นกว่าปกติครับ ดังนั้น ควรเพิ่มระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างน้อย 2 เท่า หรือนับเป็นวินาทีก็ประมาณ 4-5 วินาทีครับ การเว้นระยะห่างที่เพียงพอจะช่วยให้มีเวลาในการเบรกหรือหลบหลีกได้ทันท่วงทีหากรถคันหน้าเกิดเบรกกะทันหัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายได้มากครับ

4. เทคนิคเบรกให้ถูกวิธีบนถนนเปียก

การเบรกอย่างนุ่มนวลเป็นสิ่งจำเป็นเมื่อขับรถฝนตกหนักครับพี่ ๆ ควรหลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกอย่างรุนแรงหรือกะทันหัน เพราะอาจทำให้ล้อล็อกและรถเสียการควบคุมได้ง่ายครับ หากจำเป็นต้องลดความเร็ว ควรค่อย ๆ แตะเบรกเบา ๆ หลายครั้งเพื่อชะลอรถ หรือใช้การลดเกียร์ต่ำ (Engine Brake) เข้าช่วยในรถเกียร์ธรรมดาครับ การทำความเข้าใจเทคนิคเบรกที่ถูกต้องจะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ

5. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเลนกะทันหัน

ในขณะขับรถฝนตกหนัก การเปลี่ยนเลนหรือหักพวงมาลัยอย่างกะทันหันเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งครับ เพราะอาจทำให้รถสูญเสียการยึดเกาะถนนและเกิดการลื่นไถลได้ง่าย หากจำเป็นต้องเปลี่ยนเลน ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าเป็นเวลานานกว่าปกติ และค่อย ๆ เปลี่ยนเลนอย่างช้า ๆ และนุ่มนวล การขับขี่อย่างใจเย็นและคาดการณ์ล่วงหน้าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากครับ

6.วิธีจัดการเมื่อรถไถล 

อาการรถเหินน้ำเป็นสิ่งที่อันตรายมากขณะขับรถฝนตกหนัก หากรู้สึกว่ารถเริ่มลอยหรือไม่เกาะถนน สิ่งสำคัญคือตั้งสติ อย่าเบรกหรือหักพวงมาลัยกะทันหันครับ ให้ค่อย ๆ ถอนคันเร่ง ปล่อยให้รถลดความเร็วลงเอง และพยายามประคองพวงมาลัยให้ตรงหรือไปในทิศทางที่ต้องการอย่างนุ่มนวลจนกว่ายางจะกลับมายึดเกาะถนนอีกครั้งครับ

7. เปิดไฟหน้าและไฟตัดหมอกเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย

ทัศนวิสัยที่ย่ำแย่เป็นปัญหาหลักในการขับรถฝนตกหนักครับ ดังนั้น การเปิดไฟหน้ารถ (ไฟต่ำ) ตลอดเวลาที่ฝนตกจะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถของเราได้ชัดเจนขึ้น และยังช่วยให้เรามองเห็นเส้นทางได้ดีขึ้นด้วยครับ หากฝนตกหนักมากจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน การเปิดไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ก็สามารถช่วยได้ แต่ควรปิดเมื่อทัศนวิสัยดีขึ้นเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้อื่นนะครับ

8. เลือกเส้นทางที่ปลอดภัย

หากเป็นไปได้ ก่อนออกเดินทางในช่วงขับรถฝนตกหนัก พี่ ๆ ควรตรวจสอบและเลือกเส้นทางที่คาดว่าจะปลอดภัยที่สุดครับ หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มักมีน้ำท่วมขัง หรือเส้นทางที่เป็นเนินลาดชันมาก ๆ การใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบสภาพการจราจรและสภาพอากาศล่วงหน้าก็เป็นประโยชน์ ช่วยให้สามารถวางแผนการเดินทางและหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงได้อย่างเหมาะสมครับ

9. เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินสำหรับการขับรถฝนตกหนัก

การเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ในรถเป็นเรื่องที่ดีเสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถฝนตกหนัก เช่น ไฟฉาย, ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง, สายพ่วงแบตเตอรี่, ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือแม้แต่ร่มและเสื้อกันฝนครับ อุปกรณ์เหล่านี้อาจไม่ได้ใช้ทุกครั้ง แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น การมีสิ่งของเหล่านี้ติดรถไว้จะช่วยให้พี่ ๆ รับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

จุดอันตรายบนท้องถนนที่ต้องระวังเป็นพิเศษเมื่อฝนตกหนัก

เมื่อต้องขับรถฝนตกหนัก มีบางจุดบนท้องถนนที่พี่ ๆ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษนะครับ เช่น บริเวณแอ่งน้ำขัง ซึ่งอาจทำให้รถเหินน้ำได้ง่าย, ทางโค้ง ที่มีโอกาสลื่นไถลสูง, บริเวณที่เป็นทางลาดชัน หรือใกล้คอสะพานที่อาจมีน้ำไหลมารวมกันครับ นอกจากนี้ บริเวณที่มีใบไม้ร่วงหรือคราบน้ำมันบนถนน เมื่อผสมกับน้ำฝนก็จะยิ่งเพิ่มความลื่น ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังสูงสุดในบริเวณเหล่านี้ครับ

สัญญาณเตือนจากรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้ามขณะขับรถฝนตกหนัก

ขณะขับรถฝนตกหนัก หากสังเกตเห็นสัญญาณผิดปกติจากรถยนต์ เช่น รู้สึกว่าพวงมาลัยเบาผิดปกติ, เบรกแล้วมีเสียงดังหรือรู้สึกว่ารถไม่ค่อยอยู่, หรือมีไฟเตือนระบบ ABS หรือระบบควบคุมการทรงตัว (ถ้ามี) แสดงขึ้นมา ไม่ควรมองข้ามนะครับ อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ส่งผลต่อความปลอดภัย ควรรีบนำรถเข้าตรวจสอบกับช่างผู้ชำนาญการโดยเร็วที่สุดครับ

การขับรถฝนตกหนักจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและทักษะการขับขี่ที่มากกว่าปกติครับพี่ ๆ การเตรียมรถให้พร้อม การปรับพฤติกรรมการขับขี่ตามเทคนิคที่น้องสมหวังแนะนำ รวมถึงการสังเกตสิ่งรอบตัวและอาการของรถจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ทุกการเดินทางของพี่ ๆ ในช่วงฤดูฝนเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้นครับ

และหากพี่ ๆ ต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำหรับเรื่องจำเป็น มีรถ มีเล่มทะเบียน สมัครสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมให้คำปรึกษา สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
เปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเองง่ายมาก! 8 ขั้นตอนทำได้เองไม่ต้องรอช่าง https://www.somwang.co.th/article/change-spare-tire-by-myself/ Mon, 04 Aug 2025 06:43:41 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4448

เหตุการณ์ยางแบนหรือยางแตกกลางทางเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด แต่ก็เป็นไปได้เสมอครับ การรู้วิธีเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเอง จะช่วยให้พี่ ๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้โดยไม่ต้องรอช่างนาน บทความนี้น้องสมหวังมี 8 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเปลี่ยนยางอะไหล่มาฝาก รับรองว่าพี่ ๆ ก็ทำเองได้แน่นอนครับ

ยางอะไหล่คืออะไร

ยางอะไหล่ คือ ยางสำรองที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จะเตรียมไว้ให้ในรถ เผื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินที่ยางเส้นหลักเกิดปัญหา เช่น ยางแบน ยางแตก หรือยางรั่วจนไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ครับ ยางอะไหล่มักมีขนาดเล็กกว่าหรือแตกต่างจากยางปกติที่ใช้งาน เพื่อประหยัดพื้นที่และน้ำหนักครับ ดังนั้นจึงควรใช้ขับขี่ในระยะทางสั้น ๆ ด้วยความเร็วจำกัด เพื่อไปยังศูนย์บริการหรือร้านยางเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนยางเส้นใหม่ครับ

8 ขั้นตอนเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเอง ทำได้ง่ายไม่ต้องเรียกช่าง

เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเอง ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ เพียงทำตาม 8 ขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้ น้องสมหวังเชื่อว่าพี่ ๆ ทุกคนสามารถจัดการได้ และเดินทางต่อไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัยครับ มาเริ่มกันเลยครับ

ขั้นตอนเปลี่ยนยางรถยนต์

1. จอดรถในพื้นที่ปลอดภัยและเปิดไฟฉุกเฉิน

สิ่งแรกและสำคัญที่สุดเมื่อรู้ว่าต้องเปลี่ยนยางอะไหล่คือ การนำรถเข้าจอดในพื้นที่ราบเรียบและปลอดภัย ห่างจากกระแสการจราจรให้มากที่สุดครับ เช่น ไหล่ทางกว้าง ๆ หรือลานจอดรถ จากนั้นให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน (ไฟผ่าหมาก) ทันที เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้รถคันอื่นทราบและเพิ่มความระมัดระวังครับ อย่าลืมดึงเบรกมือและเข้าเกียร์ P (สำหรับเกียร์อัตโนมัติ) เพื่อป้องกันรถไหลด้วยนะครับ

2. เตรียมอุปกรณ์และยางอะไหล่ให้พร้อม

หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ให้นำอุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนยางอะไหล่ออกมาเตรียมไว้ครับ ซึ่งโดยทั่วไปจะประกอบด้วย แม่แรงยกรถ ประแจขันล้อ และยางอะไหล่ ควรตรวจสอบสภาพยางอะไหล่เบื้องต้นว่ามีลมยางเพียงพอและไม่ชำรุดเสียหายนะครับ การเตรียมทุกอย่างให้พร้อมใกล้มือ จะช่วยให้ขั้นตอนการเปลี่ยนยางอะไหล่เป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วขึ้นครับ

3. คลายน็อตล้อก่อนยกรถ

ก่อนที่จะใช้แม่แรงยกรถขึ้น ให้พี่ ๆ ใช้ประแจขันล้อคลายน็อตของล้อที่ต้องการจะเปลี่ยนออกก่อนนะครับ โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาประมาณครึ่งรอบถึงหนึ่งรอบก็พอครับ ยังไม่ต้องถอดน็อตออกมาทั้งหมด เพราะการคลายน็อตในขณะที่ยางยังสัมผัสพื้นจะทำได้ง่ายกว่า เพราะล้อจะไม่หมุนตามแรงขันครับ ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากสำหรับการเปลี่ยนยางอะไหล่อย่างปลอดภัยครับ

4. วางแม่แรงในตำแหน่งที่ถูกต้อง

การวางแม่แรงในตำแหน่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมากครับพี่ ๆ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายต่อตัวรถ ให้พี่ ๆ ตรวจสอบคู่มือประจำรถเพื่อหาจุดสำหรับขึ้นแม่แรงโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะเป็นคานเหล็กที่แข็งแรงใกล้กับล้อที่จะทำการ เปลี่ยนยางอะไหล่ ครับ การวางแม่แรงผิดตำแหน่งอาจทำให้รถเสียหายหรือแม่แรงพลิกคว่ำได้ ดังนั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเริ่มยกรถนะครับ

5. ยกรถและถอดน็อตล้อออกทั้งหมด

เมื่อวางแม่แรงในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้ว ให้พี่ ๆ ค่อย ๆ หมุนแม่แรงเพื่อยกรถขึ้นจนล้อที่ต้องการเปลี่ยนยางอะไหล่ลอยพ้นจากพื้น และมีช่องว่างเพียงพอที่จะถอดล้อเก่าออกและใส่ล้อใหม่เข้าไปได้ครับ จากนั้นจึงค่อย ๆ คลายน็อตล้อที่ได้คลายไว้ในตอนแรกออกทั้งหมดด้วยมือ และเก็บน็อตไว้ในที่ปลอดภัยไม่ให้กลิ้งหายไปไหนนะครับ

6. ถอดยางเก่าและใส่ยางอะไหล่

เมื่อถอดน็อตล้อออกหมดแล้ว ให้จับประคองล้อที่ชำรุดแล้วค่อย ๆ ดึงออกมาตรง ๆ อาจจะต้องใช้แรงเล็กน้อยนะครับ จากนั้นนำยางอะไหล่ที่เตรียมไว้มาใส่เข้าไปแทนที่ โดยจัดให้รูน็อตของยางอะไหล่ตรงกับแกนเกลียวที่ดุมล้อ แล้วดันเข้าไปให้สุดครับ การเปลี่ยนยางอะไหล่ในขั้นตอนนี้ควรทำด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ล้อหล่นใส่เท้าครับ

7. ขันน็อตล้อตามเข็มนาฬิกาให้แน่น

หลังจากใส่ยางอะไหล่เข้าที่แล้ว ให้นำน็อตล้อมาขันกลับเข้าไปด้วยมือก่อนครับ โดยหมุนตามเข็มนาฬิกา ขันให้แน่นที่สุดเท่าที่มือจะทำได้ โดยอาจจะขันในลักษณะทแยงมุมหรือเป็นรูปดาวเพื่อให้ล้อเข้าที่อย่างสม่ำเสมอครับ จากนั้นค่อย ๆ ลดแม่แรงลงจนยางอะไหล่แตะพื้น แล้วจึงใช้ประแจขันน็อตให้แน่นอีกครั้ง

8. ตรวจสอบความเรียบร้อย และนำยางไปให้ช่างดู

เมื่อเปลี่ยนยางอะไหล่และขันน็อตแน่นดีแล้ว ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งครับ เช่น ลมยางของยางอะไหล่ (หากมีที่วัด) และเก็บเครื่องมือทั้งหมดเข้าที่ครับ อย่าลืมนำยางเส้นที่ชำรุดไปให้ร้านยางหรือศูนย์บริการตรวจสอบเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่โดยเร็วนะครับ เพราะยางอะไหล่ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานชั่วคราวเท่านั้น ไม่ควรใช้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือเป็นระยะทางไกลครับ

ได้วิธีเปลี่ยนยางง่ายๆ กันแล้ว

การรู้วิธีเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเองเป็นทักษะที่มีประโยชน์มากนะครับพี่ ๆ เพราะช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องเสียเวลารอความช่วยเหลือเป็นเวลานานครับ เพียงทำตามขั้นตอนที่น้องสมหวังแนะนำ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย พี่ ๆ ก็สามารถเปลี่ยนยางอะไหล่ได้อย่างแน่นอน ทำให้ทุกการเดินทางอุ่นใจยิ่งขึ้นครับ

และหากพี่ ๆ ต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด สินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมให้คำปรึกษา สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
7 ขั้นตอนปรับท่านั่งขับรถทางไกลให้ถูกต้อง ลดปวดเมื่อย ขับรถได้นาน https://www.somwang.co.th/article/correct-sitting-driving/ Mon, 04 Aug 2025 06:37:32 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4440
ขับรถทางไกล

การขับรถทางไกลเป็นเรื่องที่หลายท่านอาจต้องเจอ ไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับบ้านต่างจังหวัด การนั่งในท่าเดิมนาน ๆ อาจทำให้เมื่อยล้าได้ วันนี้น้องสมหวังเลยมี 7 ขั้นตอนปรับท่านั่งขับรถให้ถูกต้อง เพื่อให้การขับรถทางไกลของพี่ ๆ สบายขึ้น ลดอาการปวดเมื่อย และขับขี่ได้อย่างปลอดภัยตลอดเส้นทางครับ

ทำไมท่านั่งขับรถทางไกล ถึงมีผลต่ออาการปวดเมื่อย

การนั่งขับรถในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถทางไกล จะทำให้กล้ามเนื้อบางส่วนเกร็งตัวค้างอยู่ตลอดเวลาครับ เช่น กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ และหลังส่วนล่างครับ นอกจากนี้ การไหลเวียนของเลือดก็อาจจะไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการชา ปวดเมื่อยตามจุดต่าง ๆ และส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้าได้ง่าย การปรับท่านั่งให้ถูกต้องจึงช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ครับ

7 ขั้นตอนปรับท่านั่งให้ถูกต้อง สำหรับขับรถทางไกล

เพื่อให้การขับรถทางไกลเป็นไปอย่างราบรื่นและสบายตัวที่สุด การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของท่านั่งจึงสำคัญมากครับ น้องสมหวังได้รวบรวม 7 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการปรับท่านั่งขับรถให้ถูกต้องมาฝากกัน ลองทำตามดูนะครับ

ท่านั่งขับรถ

1. ปรับที่นั่งให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย

เริ่มต้นด้วยการปรับระยะห่างของเบาะนั่งให้พอดีครับ โดยเมื่อเหยียบแป้นเบรกจนสุดแล้ว เข่าควรงอเล็กน้อย ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไปครับ จากนั้นปรับระดับความสูงของเบาะให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนรอบคัน โดยที่ศีรษะไม่ควรอยู่ชิดเพดานรถเกินไปครับ การปรับเบาะให้เข้ากับสรีระจะช่วยให้ควบคุมรถได้ดี และลดอาการเมื่อยล้าเมื่อต้องขับรถทางไกลเป็นเวลานานครับ

2. จับพวงมาลัยให้ถูกวิธี

ตำแหน่งการจับพวงมาลัยที่ถูกต้องคือมือทั้งสองข้างอยู่ที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกาครับพี่ ๆ เมื่อจับพวงมาลัยแล้ว ข้อศอกควรงอเล็กน้อย ไม่เหยียดตึง เพื่อให้สามารถหมุนพวงมาลัยได้อย่างคล่องแคล่วและควบคุมรถได้เต็มที่ครับ การปรับระยะห่างของเบาะให้สัมพันธ์กับพวงมาลัยจะช่วยให้พี่ ๆ ไม่ต้องเอื้อมหรือเกร็งแขนมากเกินไป โดยเฉพาะเวลาขับรถทางไกล ซึ่งจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าบริเวณหัวไหล่และแขนได้ดีครับ

3. วางเท้าบนคันเร่งและเบรกอย่างถูกต้อง

การวางตำแหน่งเท้าก็สำคัญไม่แพ้กันครับ โดยส้นเท้าควรวางพักอยู่บนพื้นรถบริเวณหน้าแป้นเบรก ให้สามารถสลับไปเหยียบแป้นคันเร่งและแป้นเบรกได้อย่างสะดวกและมั่นคงโดยไม่ต้องยกส้นเท้าบ่อย ๆ การวางเท้าที่ถูกต้องจะช่วยให้พี่ ๆ สามารถควบคุมน้ำหนักการเหยียบได้ดี ลดความเมื่อยล้าของข้อเท้าและขาเมื่อต้องขับรถทางไกล และยังช่วยให้ตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้รวดเร็วขึ้นด้วยครับ

4. จัดตำแหน่งพนักพิงศีรษะ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

พนักพิงศีรษะไม่ได้มีไว้ให้หนุนนอนนะครับพี่ ๆ แต่มีไว้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บบริเวณต้นคอหากเกิดอุบัติเหตุครับ ควรปรับระดับความสูงของพนักพิงให้จุดกึ่งกลางของพนักพิงอยู่ตรงกับระดับใบหูหรือท้ายทอยของเรา และไม่ควรมีช่องว่างระหว่างศีรษะกับพนักพิงมากเกินไปครับ การปรับให้ถูกต้องจะช่วยลดแรงกระแทก ฃและอาการบาดเจ็บที่คอได้มากเมื่อต้องขับรถทางไกล และเจอเหตุไม่คาดฝันครับ

5. ปรับพนักพิงให้เอนเล็กน้อย

การปรับพนักพิงเบาะนั่งให้ตั้งตรงเกินไปหรือเอนนอนมากเกินไปก็ไม่ดีต่อการขับรถทางไกลนะครับพี่ ๆ ควรปรับให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อยประมาณ 100-110 องศา เพื่อให้แผ่นหลังได้แนบสนิทกับเบาะอย่างเต็มที่ ท่านั่งลักษณะนี้จะช่วยลดแรงกดทับที่หมอนรองกระดูกสันหลัง ช่วยให้กล้ามเนื้อหลังผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็งตัวมากเกินไป ทำให้การขับรถทางไกลสบายขึ้นเยอะเลยครับ

6. ปรับอิริยาบถบ้างในช่วงจราจรติดขัด

แม้จะขับรถทางไกล แต่ก็อาจต้องเจอช่วงที่การจราจรติดขัดได้นะครับพี่ ๆ ในช่วงนี้ที่ต้องเหยียบเบรกบ่อย ๆ ควรปรับเปลี่ยนอิริยาบถเล็กน้อยบ้างครับ เช่น ขยับข้อเท้า หมุนคอเบา ๆ หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างบ้างเป็นครั้งคราวเท่าที่ทำได้อย่างปลอดภัยครับ การนั่งเกร็งอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ ขณะรถติดจะยิ่งเพิ่มความเมื่อยล้า การขยับตัวบ้างจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้นครับ

7. วิธีผ่อนคลายกล้ามเนื้อเมื่อรู้สึกปวดเมื่อย

หากเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยขณะขับรถทางไกล การหยุดพักรถในจุดที่ปลอดภัยแล้วลงมายืดเส้นยืดสายเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ แต่หากยังไม่สะดวกจอด อาจลองบริหารกล้ามเนื้อเบา ๆ บนรถ เช่น หมุนหัวไหล่ไปหน้า-หลัง ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะสลับกัน หรือบิดเอวซ้ายขวาเล็กน้อยอย่างระมัดระวังครับ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อจะช่วยลดความตึงเครียดและอาการปวดเมื่อย ทำให้พร้อมสำหรับการเดินทางต่อครับ

 

สัญญาณอันตรายที่บอกว่าคุณควรหยุดพักรถ

การขับรถทางไกลต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจทำให้ร่างกายอ่อนล้าโดยไม่รู้ตัวนะครับ สัญญาณเตือนที่สำคัญว่าควรหยุดพักรถทันทีคือ อาการง่วงซึม หาวบ่อย ๆ ตาเริ่มล้า มองเห็นภาพไม่ชัดเจน หรือรู้สึกว่าสมาธิในการขับขี่ลดลง การฝืนขับต่อไปเป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ ควรหาที่ปลอดภัยจอดพัก งีบหลับสักครู่ หรือลงมาเดินยืดเส้นยืดสายเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางต่อนะครับ

วางแผนการเงินให้พร้อม

การขับรถทางไกล นอกจากจะต้องเตรียมร่างกายและรถให้พร้อม หากนึกถึงเงินด่วนสนใจบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ รถแลกเงิน

หรือต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำหรับเตรียมความพร้อมในการเดินทาง หรือใช้จ่ายในยามจำเป็นระหว่างทริป ที่สมหวัง เงินสั่งได้ เรามีบริการสินเชื่อเงินสดหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสินเชื่อรถยนต์ ที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดทางการเงินและสนับสนุนให้ทุกการเดินทางของพี่ ๆ ราบรื่นไร้กังวล ปรึกษาน้องสมหวังได้เลยนะครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี? รวมสัญญาณเตือนที่คนใช้รถต้องรู้ https://www.somwang.co.th/article/when-to-change-tires/ Mon, 04 Aug 2025 05:04:18 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4432
ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี

คำถามที่ว่ายางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี เป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถทุกคนให้ความสำคัญนะครับ เพราะยางคือส่วนเดียวที่สัมผัสถนน ความปลอดภัยในการเดินทางจึงขึ้นอยู่กับสภาพยางเป็นอย่างมากครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องดูแลหรือเปลี่ยนยางแล้วครับ

ยางรถยนต์มีอายุกี่ปีนับจากวันผลิต

โดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตยางส่วนใหญ่มักแนะนำว่า ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปีนั้น ควรพิจารณาเปลี่ยนยางใหม่ทุก  5-6 ปีนับจากวันผลิตครับ ถึงแม้ดอกยางจะยังดูดีหรือใช้งานน้อยก็ตาม เพราะเนื้อยางจะเริ่มเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทำให้ความยืดหยุ่นและการยึดเกาะถนนลดลงครับ สำหรับคำถามว่ายางรถยนต์กี่ปีเปลี่ยน จริง ๆ นั้นหากเกิน 10 ปี แม้ไม่เคยใช้งาน ก็ไม่ควรนำมาใช้เพื่อความปลอดภัยนะครับ

5 สัญญาณเตือน ดูยังไงว่าควรเปลี่ยนยาง

นอกจากการนับอายุจากวันผลิตแล้ว การสังเกตสภาพยางปัจจุบันก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พี่ ๆ ทราบว่ายางรถยนต์กี่ปีเปลี่ยน หรือเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนยางใหม่นะครับ น้องสมหวังมี 5 สัญญาณเตือนหลักมาให้พี่ ๆ ลองตรวจสอบยางรถยนต์ของตัวเองกันครับ

สัญญาณเตือนเปลี่ยนยาง

1. ยางอ่อนเร็วผิดปกติ

หากพี่ ๆ สังเกตเห็นว่ายางรถยนต์เส้นใดเส้นหนึ่งมีอาการลมยางอ่อนตัวเร็วกว่าปกติ ทั้งที่เพิ่งเติมลมไปไม่นาน อาจเป็นสัญญาณว่ายางเส้นนั้นอาจมีรอยรั่วซึมขนาดเล็ก หรือโครงสร้างภายในเริ่มมีปัญหาแล้วนะครับ การที่ลมยางอ่อนจะส่งผลต่อการควบคุมรถและการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยตรง หากพบอาการนี้บ่อยครั้ง ควรนำรถไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเรื่องยางรถยนต์กี่ปีเปลี่ยนสำหรับเส้นนั้นแล้ว

2. หน้ายางแข็งกระด้าง

เมื่อยางรถยนต์ผ่านการใช้งานไปนาน ๆ หรือตากแดดตากฝนเป็นประจำ เนื้อยางจะค่อย ๆ สูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มแข็งกระด้างขึ้นครับพี่ ๆ หากลองใช้เล็บจิกที่หน้ายางแล้วรู้สึกว่าแข็งมาก ไม่ค่อยยุบตัวเหมือนยางใหม่ นั่นเป็นสัญญาณว่าประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนของยางลดลงแล้วครับ ทำให้ระยะเบรกยาวขึ้นและควบคุมรถได้ยากขึ้น โดยเฉพาะบนถนนเปียก การพิจารณาว่ายางรถยนต์ใช้ได้กี่ปีก็ต้องดูส่วนนี้ประกอบด้วยครับ

3. ดอกยางล้อหน้าและล้อหลังสึกไม่เท่ากัน

การที่ดอกยางของล้อหน้าและล้อหลัง หรือแม้แต่ด้านในและด้านนอกของยางเส้นเดียวกันสึกหรอไม่เท่ากัน อาจบ่งบอกถึงปัญหาช่วงล่าง เช่น ศูนย์ล้อที่ไม่ถูกต้องครับ แม้ว่าการสลับยางตามระยะจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้บ้าง แต่หากความแตกต่างของการสึกหรอมีมากเกินไป ก็ส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่และความปลอดภัยครับ ควรนำรถไปตรวจสอบช่วงล่าง และอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนยางชุดใหม่พร้อมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ

4. ยางล้อยึดเกาะถนนแย่ลง

หากเริ่มรู้สึกว่าขณะขับขี่รถมีอาการลื่นไถลได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะเมื่อขับบนถนนเปียก หรือเมื่อเข้าโค้งแล้วรถไม่เกาะถนนเหมือนเดิม นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าดอกยางเริ่มเหลือน้อยหรือเนื้อยางเสื่อมสภาพแล้วครับ ประสิทธิภาพในการรีดน้ำและการยึดเกาะถนนที่ลดลงเป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ อย่ารอช้าที่จะตรวจสอบสภาพยาง และอาจต้องตัดสินใจว่ายางรถยนต์กี่ปีเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางครับ

5. เกิดเสียงยางหอนเวลารถวิ่ง

ปกติแล้วยางใหม่มักจะมีเสียงค่อนข้างเงียบขณะขับขี่ แต่ถ้าเริ่มได้ยินเสียงยางหอนหรือเสียงดังผิดปกติจากบริเวณล้อขณะรถวิ่ง โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วระดับหนึ่ง อาจเป็นสัญญาณว่าหน้ายางเริ่มสึกหรอผิดปกติ หรือยางอาจเสียรูปทรงได้ครับ เสียงที่ดังขึ้นนี้ไม่เพียงแต่รบกวนการขับขี่ แต่อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ส่งผลต่อความปลอดภัย ควรนำรถไปให้ช่างตรวจสอบสภาพยางและช่วงล่างโดยด่วนครับ

ดูแลรถให้พร้อมทุกเมื่อ ไม่ต้องรอให้มีปัญหาเกิดขึ้นก่อน

การดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ รวมถึงการเปลี่ยนยางเมื่อถึงกำหนด เป็นเรื่องที่พี่ ๆ ผู้ใช้รถไม่ควรมองข้ามเพื่อความปลอดภัยนะครับ และแน่นอนว่าการบำรุงรักษาเหล่านี้ย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา เพราะฉะนั้น การดูแลรถอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะครับพี่ ๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถไปได้นาน ๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าศูนย์ตามรอบ เปลี่ยนยางเมื่อถึงกำหนด หรือเช็กสภาพเครื่องยนต์ต่าง ๆ ก็ควรหมั่นทำเป็นประจำ จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาใหญ่ในวันที่เราไม่พร้อมครับ

และถ้ารถของพี่ ๆ ยังอยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน น้องสมหวังก็อยากแนะนำว่า สามารถใช้รถคันนี้เป็นหลักทรัพย์ขอสินเชื่อได้นะครับ เผื่อในอนาคตพี่ ๆ ต้องการเงินก้อนเพื่อใช้จ่ายหรือเสริมสภาพคล่อง น้องสมหวังก็พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้พี่ ๆ อุ่นใจได้เสมอ

เข้าในวิธีการดูแลยางรถครบถ้วน

คำถามที่ว่ายางรถยนต์ใช้ได้กี่ปีนั้น มีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ทั้งอายุการผลิต สภาพการใช้งาน และการดูแลรักษาครับ การหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ ที่น้องสมหวังกล่าวมา จะช่วยให้พี่ ๆ ทราบว่าเมื่อไหร่ที่ยางรถยนต์กี่ปีเปลี่ยนหรือควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางของพี่ ๆ และคนที่คุณรักนะครับ

และหากถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางชุดใหม่ หรือมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์ที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนอย่างเร่งด่วน ที่สมหวัง เงินสั่งได้ พร้อมเป็นทางเลือกทางการเงินที่ช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ ๆ อย่างเหมาะสม ด้วยบริการสินเชื่อเงินสดหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสินเชื่อรถยนต์หรือรถทุกประเภท สามารถเข้ามาปรึกษาน้องสมหวังได้เลยนะครับ เพื่อหาทางออกทางการเงินที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของพี่ ๆ ได้เลยนะ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
รถเสียกลางทาง รถดับ ทำอย่างไรดี รวมวิธีเอาตัวรอดเบื้องต้น https://www.somwang.co.th/article/car-breaks-down-on-road/ Mon, 04 Aug 2025 04:53:49 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4424
รถเสียกลางทาง

เหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างรถยนต์สตาร์ทไม่ติด หรือเกิดปัญหารถเสียกลางทาง เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอครับ เมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ การตั้งสติและทราบวิธีรับมือเบื้องต้นจะช่วยให้พี่ ๆ ผ่านไปได้อย่างปลอดภัย บทความนี้น้องสมหวังจึงได้รวบรวมวิธีเอาตัวรอดมาฝากหากรถเกิดเสียกลางทางครับ

รวมอาการรถเสียกลางทาง ที่มักเจอบ่อย

อาการรถเสียกลางทางที่หลายคนอาจเคยพบเจอกันบ่อย ๆ นั้นมีหลากหลายเลยครับ เช่น เครื่องยนต์ดับกลางทาง สตาร์ทไม่ติด แบตเตอรี่หมด มีความร้อนขึ้นสูงผิดปกติ ยางแบนหรือยางระเบิด หรืออาจมีสัญญาณไฟเตือนต่าง ๆ ปรากฏขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์ การทราบอาการเบื้องต้นเหล่านี้จะช่วยให้สามารถประเมินสถานการณ์และสื่อสารกับช่างหรือหน่วยบริการช่วยเหลือได้อย่างถูกต้องครับ

เมื่อพี่ ๆ ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้รถเปลืองน้ำมันกันแล้ว คราวนี้มาดู 10 เทคนิคการขับรถที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่ ๆ กันเลยครับ

วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถเสียกลางทาง

5 วิธีเอาตัวรอดเมื่อรถเสียกลางทาง

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์รถเสียกลางทาง การรู้วิธีเอาตัวรอดเบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญมากครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวพี่ ๆ เองและผู้ร่วมใช้ถนนท่านอื่น ๆ น้องสมหวังมี 5 วิธีหลัก ๆ มาแนะนำดังนี้ครับ

1. ตั้งสติ อย่าตกใจ

สิ่งแรกและสำคัญที่สุดเมื่อรู้ว่ารถเสียกลางทางคือการตั้งสติครับ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจ เพราะความตกใจอาจทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ครับ ให้พี่ ๆ พยายามควบคุมความรู้สึก หายใจเข้าลึก ๆ และประเมินสถานการณ์รอบตัวอย่างรวดเร็ว การมีสติจะช่วยให้พี่ ๆ สามารถคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

2. เปิดไฟฉุกเฉินทันที

หลังจากตั้งสติได้แล้ว ให้พี่ ๆ รีบเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน (ไฟผ่าหมาก) ของรถยนต์ทันทีครับ การเปิดไฟฉุกเฉินเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นที่สัญจรไปมาได้รับทราบว่ารถของพี่ ๆ กำลังประสบปัญหา หรือจอดอยู่ในลักษณะที่อาจกีดขวางการจราจรครับ ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดเหตุรถเสียกลางทางในเวลากลางคืน หรือในบริเวณที่ทัศนวิสัยไม่ดีครับ

3. หาที่จอดปลอดภัย

หากรถยังสามารถเคลื่อนที่ได้บ้าง ควรพยายามประคองรถเข้าจอดในบริเวณที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ เช่น ไหล่ทางด้านซ้ายสุด ช่องทางฉุกเฉิน หรือบริเวณที่มีแสงสว่างเพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถในจุดอับสายตาหรือบริเวณทางโค้งนะครับ การนำรถออกจากช่องทางจราจรหลักจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และทำให้การช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุรถเสียกลางทางเป็นไปได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ

4. ตั้งป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง

เมื่อจอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว หากพี่ ๆ มีป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงหรืออุปกรณ์เตือนฉุกเฉินอื่น ๆ ให้นำมาวางไว้ด้านหลังรถในระยะที่เหมาะสมครับ โดยทั่วไปคือประมาณ 50-100 เมตร เพื่อให้รถที่ขับตามมาสามารถมองเห็นและชะลอความเร็วได้ทันท่วงทีครับ การตั้งป้ายเตือนนี้สำคัญมากโดยเฉพาะหากพี่ ๆ ต้องจอดรถในบริเวณที่การจราจรหนาแน่นหรือรถวิ่งด้วยความเร็วสูง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขณะที่รถกำลังมีปัญหารถเสียกลางทาง ครับ เสริมกรณีไม่มีป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง

5. ตรวจเช็คอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง

หากสถานการณ์เอื้ออำนวยและพี่ ๆ พอมีความรู้เรื่องรถยนต์อยู่บ้าง อาจลองตรวจเช็กอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองดูก่อนได้ครับ เช่น ดูว่ายางแบนหรือไม่ มีควันหรือกลิ่นผิดปกติบริเวณห้องเครื่อง หรือตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม หากไม่แน่ใจหรือไม่ปลอดภัย ไม่ควรพยายามซ่อมแซมรถด้วยตัวเองกลางถนนนะครับ การทราบอาการเบื้องต้นจะช่วยให้สามารถแจ้งข้อมูลกับหน่วยบริการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุรถเสียกลางทางได้อย่างถูกต้องครับ

รถเสียกลางทาง โทรหาใครได้บ้าง

เมื่อรถเสียกลางทาง สิ่งสำคัญคือการรักษาความปลอดภัยตัวเองและผู้โดยสารก่อน จากนั้นให้เตรียมโทรขอความช่วยเหลือโดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ประเมินสถานการณ์และดูแลความปลอดภัยเบื้องต้นแล้ว หากรถเสียในที่ที่ปลอดภัย เช่น ข้างทางกว้าง หรือจุดพักรถ ให้เปิดไฟฉุกเฉินทันที หรือหากอยู่บนถนนใหญ่หรือไหล่ทางแคบ ควรรีบเคลื่อนย้ายรถให้อยู่ในจุดปลอดภัย หรือออกจากรถไปอยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด
  • ติดต่อขอความช่วยเหลือครับ พี่ ๆ สามารถโทรแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่มี ซึ่งมักจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีรถเสียกลางทางรวมอยู่ด้วย
  • โทรเบอร์ฉุกเฉินทั่วไป เช่น 191, ตำรวจทางหลวง 1193 หรือศูนย์บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เช่น 1644 ครับ เตรียมข้อมูลรถ รุ่น ทะเบียนรถและตำแหน่งที่เกิดเหตุให้พร้อมนะครับ
  • กรณีที่พี่ ๆ โทรไม่ติด น้องสมหวังแนะนำให้ลองเดินไปยังจุดที่มีสัญญาณโทรศัพท์ เช่น ปั๊มน้ำมันหรือร้านค้าข้างทาง หรือขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่นผ่านไปมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้รถหรือออกเดินทางทุกครั้ง ควรเตรียมตัวและอุปกรณ์ช่วยเหลือไว้ล่วงหน้า เช่น จดเบอร์ฉุกเฉินไว้ในโทรศัพท์และจดสำรองในกระเป๋า พกอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน อย่างสามเหลี่ยมฉุกเฉิน ไฟฉาย หากเป็นไปได้ ลงทะเบียนแอปพลิเคชันของบริษัทประกันภัยหรือศูนย์ช่วยเหลือต่าง ๆ เพื่อเรียกบริการง่ายขึ้นครับ

รับมือค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอย่างมั่นใจ พร้อมรับทุกสถานการณ์

ได้วิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์รถเสียกันแล้ว หากต้องการที่ปรึกษาปัญหาทางการเงิน นึกถึงสมหวัง เงินสั่งได้ นะครับ บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถรับรถทุกประเภท ใช้เล่มทะเบียนแลกเงิน ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.59% ต่อเดือน*

การเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์รถเสียกลางทางเป็นสิ่งที่พี่ ๆ ผู้ใช้รถทุกคนไม่ควรมองข้ามนะครับ การมีสติ ปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อความปลอดภัย และทราบช่องทางการติดต่อขอความช่วยเหลือ จะช่วยให้พี่ ๆ สามารถจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และผ่านพ้นปัญหาไปได้ด้วยดีครับ อย่าลืมตรวจเช็กรถยนต์เป็นประจำเพื่อลดโอกาสการเกิดปัญหานะครับ

และหากเหตุการณ์รถเสียกลางทางนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ไม่คาดคิด หรือพี่ ๆ ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องในยามฉุกเฉิน ที่สมหวัง เงินสั่งได้ เรามีบริการสินเชื่อเงินสดหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมเป็นทางเลือกและเป็นเพื่อนคู่คิดทางการเงินให้พี่ ๆ เสมอ ปรึกษาน้องสมหวังได้เลยนะครับ

หากพี่ ๆ กำลังมองหาเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น หรือต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ที่สมหวัง เงินสั่งได้ เรามีบริการสินเชื่อเงินสดหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและเป็นทางเลือกทางการเงินที่เข้าใจพี่ ๆ เสมอครับ อย่าลืมให้น้องสมหวังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในทุกช่วงชีวิตนะครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามแอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
เทคนิคประหยัดน้ำมันขับยังไงให้คุ้มค่า https://www.somwang.co.th/article/oil-saving-techniques/ Mon, 04 Aug 2025 04:40:35 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4416
ประหยัดน้ำมัน

ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวน การขับรถให้ประหยัดน้ำมันถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้จริงนะครับ หลายท่านอาจกำลังมองหาวิธีขับขี่ที่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า วันนี้น้องสมหวังมี 10 เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้การใช้รถของพี่ ๆ คุ้มค่าและประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น มาดูกันเลยครับ

อะไรคือสาเหตุที่ทําให้รถเปลืองน้ำมัน

สาเหตุที่ทำให้รถเปลืองน้ำมัน มีดังนี้

  • พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม เช่น การออกตัวแรงหรือเบรกกะทันหัน
  • การบรรทุกของหนักเกินความจำเป็น
  • สภาพลมยางอ่อนเกินไป
  • การเปิดเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่อุณหภูมิต่ำเกินไป
  • เครื่องยนต์ขาดการบำรุงรักษาตามระยะที่กำหนด
  • การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่เหมาะสมกับรถ
  • การขับขี่ในสภาพการจราจรที่ติดขัดเป็นเวลานาน

เมื่อพี่ ๆ ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้รถเปลืองน้ำมันกันแล้ว คราวนี้มาดู 10 เทคนิคการขับรถที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพี่ ๆ กันเลยครับ

10 เทคนิคขับรถประหยัดน้ำมันที่ใช้ได้จริง

เทคนิคขับรถประหยัดน้ำมัน

1. ใช้ความเร็วคงที่เมื่อขับรถ

การขับรถด้วยความเร็วคงที่เป็นหัวใจสำคัญของการขับขี่ให้ประหยัดน้ำมันเลยนะครับ พี่ ๆ ควรพยายามรักษาระดับความเร็วให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล การใช้ความเร็วที่เหมาะสมตามกฎหมายกำหนด เช่น ประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่เหมาะสม ไม่เกิดการเร่งเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ทำให้สามารถขับขี่ได้ไกลขึ้น และประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นครับ

2. ไม่ออกรถกระชาก

หลายท่านอาจคุ้นเคยกับการออกตัวรถอย่างรวดเร็วหรือการเหยียบคันเร่งทันทีเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่พฤติกรรมนี้ทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก และใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ครับ เพื่อการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมัน น้องสมหวังแนะนำให้ค่อย ๆ เหยียบคันเร่งแล้วออกตัวอย่างนุ่มนวล จะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้อย่างมาก และยังช่วยถนอมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของรถยนต์ในระยะยาวอีกด้วยครับ

3. ไม่เบรกรถบ่อย หรือเบรกรถกะทันหัน

การเบรกรถบ่อยครั้งหรือการเบรกอย่างกะทันหัน นอกจากจะทำให้ผ้าเบรกสึกหรอเร็วกว่าปกติแล้ว ยังส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุด้วยนะครับ เพราะทุกครั้งที่เราเบรก พลังงานจลน์ของรถจะสูญเสียไป และเมื่อต้องการเร่งความเร็วอีกครั้ง เครื่องยนต์ก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสร้างพลังงานนั้นใหม่ การมองการณ์ไกล เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้เหมาะสม จะช่วยให้พี่ ๆ สามารถชะลอความเร็วได้อย่างนุ่มนวล และช่วยประหยัดน้ำมันได้ครับ

4. เมื่อรถติด ให้ใส่เกียร์ว่าง

สำหรับพี่ ๆ ที่ใช้รถยนต์เกียร์อัตโนมัติ เมื่อต้องจอดรถหยุดนิ่งเป็นเวลานานเนื่องจากการจราจรติดขัด การเปลี่ยนเกียร์จากตำแหน่ง D (ขับขี่) มาเป็น N (เกียร์ว่าง) พร้อมกับการดึงเบรกมือ จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ได้ครับ ทำให้เครื่องยนต์ไม่ต้องพยายามขับเคลื่อนรถไปข้างหน้าตลอดเวลา แต่อย่าลืมเหยียบเบรกหรือดึงเบรกมือเพื่อความปลอดภัยด้วยนะครับ

5. เมื่อจอดรถให้ดับเครื่องยนต์

หากต้องจอดรถรอเป็นเวลานาน เช่น จอดรอรับส่งคน หรือจอดรอทำธุระที่คาดว่าจะใช้เวลาเกิน 5 นาที การดับเครื่องยนต์จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างมากเลยครับ การปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานในขณะที่รถจอดนิ่งเป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น และยังเพิ่มมลพิษในอากาศอีกด้วยครับ การดับเครื่องยนต์จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยทั้งเซฟเงินและรักษาสิ่งแวดล้อมครับ

6. เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

เครื่องปรับอากาศในรถยนต์หรือแอร์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมันนะครับ การเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เย็นจัดเกินไปจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักขึ้น และดึงกำลังจากเครื่องยนต์มากขึ้นครับ เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมัน เราควรตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ประมาณ 25 องศาเซลเซียส หรือในระดับที่รู้สึกสบาย ไม่หนาวจนเกินไป จะช่วยลดภาระเครื่องยนต์ และช่วยให้การใช้เชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

7. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า

ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง การวางแผนเส้นทางล่วงหน้าจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันและประหยัดเวลาได้มากเลยครับ การศึกษาเส้นทางที่สั้นที่สุดหรือมีสภาพการจราจรคล่องตัวที่สุด จะช่วยหลีกเลี่ยงการขับรถหลงทางหรือเส้นทางที่การจราจรติดขัดเป็นเวลานานได้ครับ ซึ่งล้วนแต่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น ซึ่งปัจจุบันก็มีแอปพลิเคชันนำทางมากมายที่ช่วยให้การวางแผนก่อนการเดินทางเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพครับ

8. ตรวจลมยางอย่างสม่ำเสมอ

ลมยางเป็นอีกจุดที่ไม่ควรมองข้ามหากต้องการขับรถให้ประหยัดน้ำมันนะครับ การที่ลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้น เกิดแรงต้านทานการหมุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นและสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติครับ พี่ ๆ ควรตรวจเช็กลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือก่อนเดินทางไกล และเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำไว้นะครับ

9. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา

น้ำมันเครื่องมีหน้าที่สำคัญในการหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ ลดการเสียดสี และช่วยระบายความร้อนครับ หากไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด น้ำมันเครื่องจะเสื่อมสภาพและมีความหนืดมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นตามไปด้วยครับ การดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยประหยัดน้ำมันได้ครับ

10. หมั่นดูแลเครื่องยนต์ตามรอบ

การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็กหัวเทียน ไส้กรองอากาศ หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ของเครื่องยนต์ การดูแลให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอจะช่วยให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็นครับ การลงทุนดูแลเครื่องยนต์ในวันนี้ จะช่วยให้พี่ ๆ ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงในระยะยาวได้ครับ

เปลี่ยนรถเงินก้อนพร้อมใช้ด้วยสินเชื่อรถยนต์ 

การขับรถให้ประหยัดน้ำมันไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือนของพี่ ๆ แต่ยังเป็นการช่วยถนอมรถยนต์ให้อยู่กับเราไปได้นาน ๆ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะครับ เทคนิคทั้ง 10 ข้อที่น้องสมหวังนำมาฝากในวันนี้ หากพี่ ๆ นำไปปรับใช้ในการขับขี่ประจำวัน รับรองว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ช่วยให้ทุกการเดินทางคุ้มค่าและประหยัดน้ำมันได้จริงครับ

แม้ว่าเราจะพยายามขับรถให้ประหยัดน้ำมันและดูแลรถยนต์เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่บางครั้งก็อาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต้องใช้เงินก้อนเกิดขึ้นได้นะครับ หากพี่ ๆ ต้องการเงินทุนสำรองเพื่อจัดการเรื่องเหล่านี้ หรือเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในชีวิต การมีรถยนต์ที่ปลอดภาระใช้ขอสินเชื่อรถยนต์ได้ มีรถ มีเล่มทะเบียน ช่วยให้มีเงินก้อนพร้อมใช้ อุ่นใจในทุกสถานการณ์

หากพี่ ๆ กำลังมองหาเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในยามจำเป็น หรือต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ที่สมหวัง เงินสั่งได้ เรามีบริการสินเชื่อเงินสดหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสินเชื่อรถยนต์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและเป็นทางเลือกทางการเงินที่เข้าใจพี่ ๆ เสมอครับ อย่าลืมให้น้องสมหวังเป็นเพื่อนคู่คิดทางการเงินครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามรายละเอียดได้แอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
เคล็ดลับเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ https://www.somwang.co.th/article/tips-freelancer-loan-approved/ Mon, 04 Aug 2025 04:30:55 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4408
สินเชื่ออาชีพอิสระ

พี่ ๆ ที่ประกอบอาชีพอิสระหลายท่านอาจกำลังมองหาโอกาสทางการเงิน หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนะครับ การเข้าถึงสินเชื่ออาชีพอิสระอาจดูเป็นเรื่องท้าทาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ บทความนี้น้องสมหวังเลยมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้เตรียมตัวขอสินเชื่อได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และเพิ่มโอกาสได้รับการพิจารณาจากสถาบันการเงินมาฝากกันครับ

เป็นฟรีแลนซ์ ขอสินเชื่ออาชีพอิสระยากไหม

พี่ ๆ ฟรีแลนซ์หลายคนอาจมีความกังวลใจว่าการขอสินเชื่ออาชีพอิสระนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะลักษณะงานที่ไม่มีรายได้ประจำเหมือนพนักงานทั่วไป ทำให้สถาบันการเงินอาจต้องใช้เวลาพิจารณาเอกสารมากขึ้น แต่พี่ ๆ ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ ถึงแม้จะต้องเตรียมตัวมากกว่าปกติ แต่หากเราเข้าใจหลักเกณฑ์และเตรียมเอกสารให้พร้อม การขอสินเชื่ออาชีพอิสระก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอย่างแน่นอน

สินเชื่ออาชีพอิสระ

ขอสินเชื่ออาชีพอิสระ ควรเตรียมตัวอย่างไร

ก่อนขอสินเชื่ออาชีพอิสระ ควรเตรียมตัวดังนี้

  • เตรียมเอกสารยืนยันตัวตนให้ครบถ้วนครับ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
  • รวบรวมเอกสารแสดงรายได้ที่ชัดเจนและย้อนหลังอย่างน้อย 6-12 เดือนครับ
  • จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ เช่น สัญญาจ้างงาน ใบเสนอราคา หรือผลงานที่ผ่านมา
  • ตรวจสอบประวัติข้อมูลเครดิตของตนเองให้เรียบร้อย
  • ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขของสินเชื่ออาชีพอิสระจากสถาบันการเงินต่าง ๆ

เคล็ดลับขอสินเชื่ออาชีพอิสระให้อนุมัติง่าย

เมื่อทราบแล้วว่าการเตรียมตัวเบื้องต้นสำหรับสินเชื่ออาชีพอิสระต้องทำอะไรบ้าง คราวนี้มาดูเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อ ให้พี่ ๆ ได้รับการพิจารณาอย่างราบรื่นยิ่งขึ้นกันเลยครับ

ขั้นตอนขอสินเชื่ออาชีพอิสระ

1. เดินบัญชีให้สม่ำเสมอ (Statement สำคัญมาก)

สำหรับพี่ ๆ ที่ทำอาชีพอิสระ การเดินบัญชีหรือสเตทเมนต์ถือเป็นหัวใจสำคัญเลยนะครับ เพราะเป็นหลักฐานที่แสดงกระแสเงินสดหมุนเวียนและรายรับของเราได้ชัดเจนที่สุด พี่ ๆ ควรนำเงินรายได้เข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนเล็กหรือใหญ่ก็ตามครับ การมีรายการเดินบัญชีที่ต่อเนื่องและสอดคล้องกับรายได้ที่แจ้ง จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสถาบันการเงินในการพิจารณาสินเชื่ออาชีพอิสระของเราได้มากทีเดียวครับ

2. ยื่นภาษีประจำปี แม้ยังไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี

พี่ ๆ หลายท่านอาจมองข้ามเรื่องการยื่นภาษี โดยเฉพาะหากรายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีนะครับ แต่น้องสมหวังอยากแนะนำว่าการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.90 หรือ 91) เป็นประจำทุกปีนั้นสำคัญมาก เพราะเอกสารการยื่นภาษีถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานรายได้ที่สถาบันการเงินให้ความเชื่อถือ ช่วยยืนยันว่าเรามีแหล่งที่มาของรายได้จริงและประกอบอาชีพอย่างสุจริต ซึ่งเป็นผลดีต่อการพิจารณาสินเชื่ออาชีพอิสระครับ

3. รวบรวมเอกสารเพิ่มเติมที่แสดงรายได้

นอกเหนือจากสเตทเมนต์และการยื่นภาษีแล้ว พี่ ๆ ควรเตรียมเอกสารอื่น ๆ ที่ช่วยยืนยันการทำงานและรายได้ของเราด้วยนะครับ เช่น ใบเสร็จรับเงินที่เราออกให้ลูกค้า สัญญาจ้างงานสำหรับโปรเจกต์ต่าง ๆ ทะเบียนการค้า (ถ้ามี) หรือแม้แต่หลักฐานการโอนเงินค่าจ้างจากลูกค้าก็สามารถใช้ได้ครับ เอกสารเหล่านี้จะช่วยประกอบการพิจารณา ทำให้เห็นภาพรวมของรายได้และความมั่นคงในการประกอบอาชีพของเราในการขอสินเชื่ออาชีพอิสระได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

4. มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยเพิ่มโอกาสผ่าน

หากมีหลักทรัพย์ที่ปลอดภาระ เช่น บ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ การนำมาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่ออาชีพอิสระ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการพิจารณาครับ เพราะหลักทรัพย์ค้ำประกันจะช่วยลดความเสี่ยงให้กับสถาบันการเงิน ทำให้พวกเขามั่นใจในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทั้งนี้ ประเภทของหลักทรัพย์ที่สามารถใช้ค้ำประกันได้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงินและประเภทสินเชื่อที่พี่ ๆ สนใจด้วยครับ

5. มีวินัยทางการเงิน

วินัยทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าพี่ ๆ จะประกอบอาชีพใดก็ตาม การมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต หรือสินเชื่ออื่น ๆ (ถ้ามี) โดยไม่ผิดนัดชำระ จะแสดงให้สถาบันการเงินเห็นว่าเรามีความรับผิดชอบและสามารถบริหารจัดการการเงินของตนเองได้ดีครับ สิ่งนี้จะถูกบันทึกในข้อมูลเครดิต (เครดิตบูโร) ซึ่งสถาบันการเงินใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่ออาชีพอิสระ ดังนั้น การรักษาวินัยทางการเงินจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับ

6. เลือกผู้ให้บริการที่เข้าใจฟรีแลนซ์

ปัจจุบันมีสถาบันการเงินหลายแห่งที่เข้าใจและมีผลิตภัณฑ์สินเชื่ออาชีพอิสระ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนทำฟรีแลนซ์โดยเฉพาะ การเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์อนุมัติสินเชื่อให้กลุ่มฟรีแลนซ์โดยตรง จะช่วยให้ขั้นตอนการพิจารณาราบรื่นขึ้นครับ พี่ ๆ ควรศึกษาข้อมูล สอบถามเงื่อนไข เลือกผู้ให้บริการที่พร้อมให้คำปรึกษาและเข้าใจในลักษณะการทำงานรวมถึงแหล่งที่มาของรายได้ของเราอย่างแท้จริงนะครับ

อาชีพไหนก็ไม่ต้องกังวลนะครับ

การเป็นฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระไม่ได้หมายความว่าจะถูกจำกัดโอกาสทางการเงินนะครับ หากมีการวางแผนทางการเงินที่ดี เตรียมตัวอย่างรอบคอบ และเข้าใจหลักเกณฑ์ในการขอสินเชื่ออาชีพอิสระ พี่ ๆ ก็สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ใช้จ่ายในยามจำเป็น หรือเพิ่มสภาพคล่องได้เช่นกัน เพราะสิ่งสำคัญคือการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงิน และเลือกสินเชื่อที่ตรงกับความจำเป็น

โดยสรุปแล้ว การขอสินเชื่ออาชีพอิสระสำหรับพี่ ๆ ฟรีแลนซ์นั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินไปครับ หากเรามีการเตรียมตัวที่ดีตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ การยื่นภาษี การรวบรวมเอกสารแสดงรายได้ การรักษาวินัยทางการเงินที่ดี รวมถึงการเลือกผู้ให้บริการที่เข้าใจ ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสให้การขอสินเชื่อเป็นไปได้ด้วยดีและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแน่นอนครับ

สำหรับพี่ ๆ ที่กำลังมองหาสินเชื่ออาชีพอิสระ หรือต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่อง ที่สมหวัง เงินสั่งได้ เราเข้าใจความต้องการของคนทำอาชีพอิสระ เรามีบริการสินเชื่อเงินสดหลากหลายประเภท รวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่พร้อมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางการเงินให้พี่ ๆ อย่าลืมปรึกษาน้องสมหวังเพื่อรับคำแนะนำและค้นหาทางออกทางการเงินที่เหมาะสมกับพี่ ๆ นะครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามรายละเอียดได้แอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>
วิธีคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ เข้าใจง่ายใน 5 นาที https://www.somwang.co.th/article/how-to-calculate-car-loan/ Mon, 04 Aug 2025 04:18:51 +0000 https://www.somwang.co.th/?p=4400
สินเชื่อทะเบียนรถยนต์

พี่ ๆ ที่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง หรือกำลังสนใจเรื่องสินเชื่อรถยนต์ หลายท่านอาจจะเคยสงสัยว่าดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายนั้นมีวิธีคิดอย่างไร วันนี้ “สมหวัง เงินสั่งได้” จะมาไขข้อข้องใจ ชวนพี่ ๆ มาทำความเข้าใจวิธีการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถยนต์แบบง่าย ๆ ที่พี่ ๆ สามารถเข้าใจได้ในเวลาไม่นาน รับรองว่าอ่านจบแล้วจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นเยอะเลยครับ จะได้วางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ

สินเชื่อรถยนต์คืออะไร

สินเชื่อรถยนต์ คือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทหนึ่งที่สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินเชื่อมอบให้กับบุคคลทั่วไปหรือนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อนำไปซื้อรถยนต์คันใหม่หรือรถยนต์มือสอง หรือเป็นการนำรถยนต์ที่พี่ ๆ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่แล้วมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอเงินก้อนไปใช้จ่ายตามความจำเป็นต่าง ๆ เช่น เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ เป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หรือเพื่อการศึกษาบุตร ใช้ในเรื่องจำเป็นจริง ๆ นะครับ

สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ คือ

สินเชื่อรถยนต์ มีกี่ประเภท

เพื่อให้พี่ ๆ เข้าใจภาพรวมของสินเชื่อรถยนต์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ของสินเชื่อรถยนต์ได้ดังนี้ครับ

  • สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เป็นสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่หรือรถยนต์มือสอง โดยผู้กู้จะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ และกรรมสิทธิ์ในรถยนต์จะยังเป็นของผู้ให้สินเชื่อ จนกว่าผู้กู้จะผ่อนชำระครบถ้วนครับ
  • สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ หรือที่หลายคนเรียกว่า “รถแลกเงิน” เป็นสินเชื่อสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์อยู่แล้ว และต้องการนำเล่มทะเบียนรถยนต์มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอเงินก้อน โดยที่พี่ ๆ ยังสามารถใช้รถยนต์ได้ตามปกติครับ
  • สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ เป็นการขอสินเชื่อใหม่เพื่อไปชำระคืนสินเชื่อเดิมที่มีอยู่ ซึ่งอาจจะช่วยให้ผู้กู้ได้รับเงื่อนไขที่ดีขึ้น เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง หรือระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นขึ้นครับ

ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์คืออะไร

ดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ คือ ค่าบริการที่สถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการสินเชื่อเรียกเก็บจากผู้กู้ครับ เมื่อมีการกู้ยืมเงินเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับรถยนต์ โดยอัตราดอกเบี้ยนี้จะถูกคิดคำนวณจากเงินต้นที่กู้ยืม และมักจะแสดงในรูปร้อยละต่อปี หรือร้อยละต่อเดือนตามที่ตกลงกันในสัญญาครับ การทำความเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยจึงสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนหนึ่งของจำนวนเงินทั้งหมดที่พี่ ๆ จะต้องชำระคืนให้กับผู้ให้บริการสินเชื่อครับ

ดอกเบี้ยสินเชื่อทะเบียนรถยนต์

วิธีคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ง่าย ๆ

การทราบวิธีคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ด้วยตนเอง จะช่วยให้พี่ ๆ สามารถประเมินภาระค่าใช้จ่ายเบื้องต้น และวางแผนการผ่อนชำระได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้นครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่มักจะใช้วิธีคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) ซึ่งค่อนข้างเข้าใจง่ายครับ

ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น น้องสมหวังขอยกตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ (ในที่นี้จะเน้นที่สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ซึ่งมักคิดดอกเบี้ยแบบคงที่) นะครับ สมมติว่าพี่ ๆ ได้รับวงเงินกู้ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.59% ต่อเดือน เท่ากับอัตราดอกเบี้ย Effective Rate 12.64155% ต่อปี และเลือกระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน วิธีคิดคือ นำเงินต้นคูณอัตราดอกเบี้ยต่อเดือน แล้วคูณจำนวนเดือนทั้งหมด จะได้ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญา จากนั้นนำดอกเบี้ยรวมบวกกับเงินต้น แล้วหารด้วยจำนวนเดือน ก็จะได้ค่างวดต่อเดือนโดยประมาณครับ
เรามาดูวิธีคำนวณทีละขั้นตอนกันเลยครับ

สูตรคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น น้องสมหวังขอยกตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ (ในที่นี้จะเน้นที่สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ซึ่งมักคิดดอกเบี้ยแบบคงที่) นะครับ

สมมติว่าพี่ ๆ ได้รับวงเงินกู้ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.59% ต่อเดือน เท่ากับอัตราดอกเบี้ย Effective Rate 12.64155% ต่อปี และเลือกระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน วิธีคิดคือ นำเงินต้นคูณอัตราดอกเบี้ยต่อเดือน แล้วคูณจำนวนเดือนทั้งหมด จะได้ดอกเบี้ยรวมตลอดสัญญา จากนั้นนำดอกเบี้ยรวมบวกกับเงินต้น แล้วหารด้วยจำนวนเดือน ก็จะได้ค่างวดต่อเดือนโดยประมาณครับ

เรามาดูวิธีคำนวณทีละขั้นตอนกันเลยครับ

  1. คำนวณดอกเบี้ยทั้งหมดตลอดอายุสัญญา
    • อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน 0.59% (หรือ 0.59 / 100 = 0.0059)
    • ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน (คิดจากเงินต้นคงที่) 100,000 บาท x 0.0059 = 590 บาทต่อเดือน
    • ดังนั้น ดอกเบี้ยทั้งหมดตลอดอายุสัญญา 60 เดือน คือ 590 บาท/เดือน x 60 เดือน = 35,400 บาท
  2. คำนวณยอดเงินทั้งหมดที่ต้องชำระ (เงินต้นรวมดอกเบี้ย)
    • ยอดเงินทั้งหมด = เงินต้น + ดอกเบี้ยทั้งหมดตลอดอายุสัญญา
    • ยอดเงินทั้งหมด = 100,000 บาท + 35,400 บาท = 135,400 บาท
  3. คำนวณค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนโดยประมาณ:
    • ค่างวดต่อเดือน =ยอดเงินทั้งหมดที่ต้องชำระ / จำนวนเดือนที่ผ่อน
    • ค่างวดต่อเดือน = 135,400 บาท / 60 เดือน = 2,257 บาท

จากตัวอย่างนี้ พี่ ๆ จะเห็นว่า หากกู้เงิน 100,000 บาท ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว จะมีค่างวดผ่อนชำระประมาณเดือนละ 2,257 บาทครับ การคำนวณแบบนี้จะช่วยให้ประเมินภาระการผ่อนต่อเดือนได้ง่ายขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจในการขอสินเชื่อรถยนต์ครับ หรือถ้าไม่อยากคิดเองให้ยุ่งยาก น้องสมหวังแนะนำประเมินวงเงินกู้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถผ่านเว็บไซต์สมหวังก็ได้นะครับ

อัตราดอกเบี้ยรถยนต์ปัจจุบันเป็นเท่าไหร่

สำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ในปัจจุบันนั้นจะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสินเชื่อ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ รถมือสอง หรือสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ นโยบายและเงื่อนไขของผู้ให้บริการสินเชื่อแต่ละแห่ง สภาวะเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงเวลานั้น ๆ รวมถึงคุณสมบัติของผู้กู้ และสภาพของรถยนต์ที่นำมาเป็นหลักประกัน (ในกรณีสินเชื่อทะเบียนรถยนต์) ดังนั้น การสอบถามข้อมูลโดยตรงจากผู้ให้บริการสินเชื่อที่พี่ ๆ สนใจจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ

สินเชื่อรถยนต์ ทางเลือกที่ยืดหยุ่นเพื่อคนมีรถ

สินเชื่อรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ถือเป็นทางเลือกทางการเงินที่มีความยืดหยุ่นสำหรับพี่ ๆ ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ครับ เพราะช่วยให้พี่ ๆ สามารถเปลี่ยนรถยนต์ที่มีอยู่ให้เป็นเงินก้อนเพื่อนำไปใช้จ่ายในยามจำเป็น หรือเสริมสภาพคล่องในด้านต่าง ๆ ได้ โดยที่ยังคงมีรถยนต์ไว้ใช้งานตามปกติ

สำหรับ “สมหวัง เงินสั่งได้” เรามีบริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของสินเชื่อรถยนต์ที่เข้าใจความต้องการของพี่ ๆ พร้อมให้คำปรึกษาและรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้พี่ ๆ สามารถตัดสินใจและวางแผนทางการเงินได้อย่างเหมาะสมกับตนเองครับ

ได้ข้อมูลการคิดดอกเบี้ยกันแล้ว!

การทำความเข้าใจเรื่องการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดเลยใช่ไหมครับ การทราบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้พี่ ๆ สามารถวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบ และเลือกใช้บริการสินเชื่อได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการและศักยภาพในการผ่อนชำระของตนเอง “สมหวัง เงินสั่งได้” หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับพี่ ๆ ทุกท่านนะครับ และหากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ก็สามารถติดต่อสอบถามน้องสมหวังได้เสมอครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาเราได้เลยนะครับผม โทรสอบถามด่วนได้ที่ 02-123-4000 หรือแชทสอบถามรายละเอียดได้แอดไลน์สมหวัง เงินสั่งได้ ได้เลยครับ

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 15%-24% ต่อปี
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12%-24% ต่อปี
  • ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี | กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ผู้ให้บริการกำหนด 
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 12% – 24% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

กรุณากรอกข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ


ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไฮเวย์ จำกัด (“บริษัท”) ได้ ตาม ประกาศความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์ของบริษัท ตามลิ้งค์นี้ และ/หรือช่องทางอื่นใดที่บริษัทกำหนด

บทความแนะนำ

]]>